EN / TH

แอร์มือสองมีกลิ่นอับ เหม็นเปรี้ยว อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

แอร์มือสองมีกลิ่นอับ เหม็นเปรี้ยว อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ถ้าเปิดแอร์แล้วได้กลิ่นอับแบบไม่รู้สาเหตุ ซึ่งพบได้บ่อยใน แอร์มือสอง สาเหตุที่สันนิษฐานเบื้องต้นได้เลยก็น่าจะมาจากเชื้อราที่สะสมตัวอยู่ภายใน เมื่อมีจำนวนมากขึ้น ก็จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับขึ้นมา เชื้อราเหล่านี้มาจากการระบายความชื้นที่ออกไม่หมด ทำให้เชื้อเจริญเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับสภาพอากาศของเมืองไทยที่ร้อนชื้นอยู่แล้ว กลายเป็นแหล่งเจริญเติบโตชั้นดีสำหรับเชื้อรา

โดยเชื้อเหล่านี้จะเกาะกินผิวของพลาสติกในเครื่องปรับอากาศ ดังนั้น การทำความสะอาดแอร์ด้วยน้ำเปล่าปกติ จึงไม่ช่วยให้สามารถกำจัดออกไปได้หมด เพราะฉะนั้นก็อย่าไปแปลกใจ หากพบว่า ล้างทำความสะอาดแอร์แล้ว แต่เมื่อกลับมาใช้งาน กลิ่นอับยังคงอยู่ไม่หายไปไหน อาจจะดีขึ้นบ้างในช่วงการล้างแอร์ช่วงแรก แต่นานวันไป กลิ่นเหม็นอันไม่พึงประสงค์ก็จะวนเวียนกลับมาเหมือนเดิม

เพราะเหตุใดแอร์ถึงระบายความชื้นได้ไม่ดี?

สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่สามารถระบายความชื้นได้ดี เป็นต่อก่อให้เกิดปัญหาเชื้อราที่เจริญเติบโตแพร่กระจายจนกินเนื้อพลาสติกนั้น พบได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งที่พบได้บ่อย คือ

  1. ความชื้นภายในห้องที่มากจนเกินไป ทำให้แอร์ไม่สามารถระบายเอาอากาศชื้นออกไปได้หมด ซึ่งยังพบว่าการมีตู้ปลาแบบเปิดฝา ภาชนะใส่น้ำ หรือการปลูกต้นไม้ไว้ภายในห้อง เป็นต้น มักจะทำให้ห้องมีปริมาณความชื้นสูงตามมา
  2. การระบายน้ำภายในรางน้ำที่ไม่ดีพอ
  3. การใช้งานแอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยไม่เคยล้างเลย ซึ่งอาจจะนานเป็นปีๆ ทำให้เกิดความสกปรก ฝุ่นและความชื้นเกาะสะสมกันอยู่ภายในพื้นที่ที่มองไม่เห็น
  4. การเจริญเติบโตของเชื้อราบริเวณท่อน้ำทิ้ง ซึ่งมักจะมาจากการที่ท่อน้ำทิ้งยาวเกินไป องศาการระบายทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งอาจจะมีตำแหน่งที่ทำให้น้ำขัง หรือการคดเคี้ยวของท่อมากเกินไป ก็ส่งผลให้เกิดความชื้นผลักกลับเข้ามาด้านในได้

ตำแหน่งที่มักเกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ง่าย

เนื่องจากเชื้อราเป็นต้นตอของกลิ่นอับ และกลิ่นเปรี้ยวที่ชวนให้อากาศไม่สดชื่น ในอากาศเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่ไม่บริสุทธิ์ พบว่าตำแหน่งที่มักจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการสะสมของเชื้อรา มักจะเป็นบริเวณทึบแสง มีความอับชื้น ซึ่งเชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดีในอากาศที่มีความร้อนชื้นอยู่แล้ว ด้วยปัจจัยเหล่านี้ เครื่องปรับอากาศที่ใช้งานอยู่ก็อาจจะกลายเป็นสภาพของอนุบาลเพาะเชื้อราขึ้นมาแบบที่เจ้าของไม่รู้ตัว โดยตำแหน่งเสี่ยงสูงที่มีโอกาสพบได้มากที่สุด เช่น ท่อน้ำทิ้ง รางน้ำทิ้ง ฟองน้ำที่เป็นส่วนประกอบบุฉนวน แผ่นกรองแอร์ และจุดอับหลังเครื่อง เป็นต้น

อันตรายจากกลิ่นเหม็นอับ เหม็นเปรี้ยว ที่หลายคนมองข้าม!

แม้จะทนรับสภาพกับกลิ่นอับเหล่านั้นได้ แต่ก็หาใช่สิ่งที่ต้องทน เพราะสิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่อากาศที่ไม่บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยอันตรายจากเชื้อราที่สูดดมเข้าไป โดยที่ไม่สามารถมองเห็นได้ การแพร่พันธุ์ของเชื้อราที่เจริญเติบโตด้วยการสร้างสปอล่องลอยไปในอากาศ

การหายใจสูดดมเข้าไปในร่างกาย แม้เพียงแค่เล็กน้อย ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตราย เจ็บป่วยแบบไม่คุ้มเสียตามมา โดยเฉพาะในคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำอยู่แล้ว โอกาสเจ็บป่วยยิ่งหนักมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า ยิ่งการสูดดมต่อเนื่องในทุกๆ วัน เพราะคิดว่าเป็นเพียงอากาศที่อับชื้นเพียงเล็กน้อย ไม่ได้กระทบอะไรกับชีวิตประจำวัน แต่นั่นคือการทำร้ายสุขภาพตัวเองแบบอ้อมๆ และอย่างค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เกิดภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนขึ้นมา เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ปัญหาระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร หลอดลมอักเสบ จมูกอักเสบ และปอดอักเสบ เป็นต้น

เห็นแบบนี้แล้ว เมื่อใดก็ตามที่พบว่าแอร์มีกลิ่นอับที่ไม่น่าภิรมย์ ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ให้รีบแก้ไขด้วยการหาต้นตอ ซึ่งจะเป็นตำแหน่งของการเกิดเชื้อรา แม้การกำจัดให้หมดไปในครั้งเดียวจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย ด้วยการลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ปล่อยให้แอร์แห้งๆ ทิ้งไว้แบบไม่เปิดใช้งานสัก 1 สัปดาห์ก่อน การทำวิธีนี้จะต้องทำภายหลังขั้นตอนการล้างแอร์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อราเสียก่อน เมื่อแอร์แห้ง และสังเกตว่าท่อน้ำทิ้งก็แห้งแล้ว ค่อยกลับมาใช้งานใหม่อีกครั้ง

แต่หากยังพบกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อยู่ล่ะก็ นั่นแสดงว่าทำความสะอาดไม่ตรงจุด ดังนั้น จึงต้องค่อยๆ หาทางแก้ไขกันต่อไปว่าเชื้อราเกิดขึ้นจากส่วนไหนของแอร์ เมื่อพบแล้วรีบกำจัดทิ้งก่อนที่จะแพร่กระจายไปส่วนอื่นๆ จนทำความสะอาดได้ยากตามมา

เกี่ยวกับเรา

โดกังแอร์ เราคือโกดังแอร์มือสอง แอร์ราคาถูก ราคาสบายกระเป๋า มีบริการติดตั้ง แอร์ทุกเครื่องสภาพสวย มีการรับประกันจากทางร้าน มีบริการพ่นสีเคลือบเงา ดูแลกันยาวๆ

ติดต่อเรา

Line ID: @KoDangAir